Saturday, July 24, 2010

ศูนย์บัญชาการ เก็บค่าเช่าแผงตลาดแฮนด์เมด Etsy

ภาพจาก Apartment Therapy

ถ้าจะว่าไป Etsy ก็คือเหมือนตลาดสด มีเขียงหมู แผงผัก แผงปลา บ้านเราดีๆนี่เอง....มีแผง มีพื้นที่ให้เช่า มีคนเก็บค่าเช่าแผง แต่มันต่างตรงที่ Etsy ไม่มีพนักงานแต่งตัวเนียบ....ถ้าเป็นชายก็ผมเรียบแปร้ มันแผล๊บ ถ้าเป็นหญิงก็ผมตีโป่ง ใส่แหวนเพชรเม็ดเท่าไข่....เดินนวยนาดพร้อมประเป๋าหนังหนีบรักแร้ เดินเข้าตลาดตามเก็บค่าเช่าแผง

Etsy ไม่มีเขียงหมู แผงผัก แผงปลา ให้เช่า....ใครต้องการค้าขายใน Etsy ต้องเป็นพวกมีฝีที่มือเท่านั้น เค้าถึงยอมให้ขายของในตลาดเค้า....ต้องเป็นสินค้าทำจากมือคนขายเองล้วนๆ เค้าถึงยอมให้ขายในตลาดเค้า จะมาทำเมาไปแอบซื้อมา แล้วมาขาย เค้าจับได้ ก็โดนปิดกันไป...บางครั้งมีอายกันบ้าง เพราะโดนประนามจากหมู่แม่ค้าด้วยกัน


เริ่มรู้จัก Etsy มาตั้งแต่เค้าเริ่มเปิดได้ประมาณปีสองปี จากกลุ่มคนรักงานแฮนด์แมด และต้องการหาที่ขายงานพวกนี้เลยก่อตั้งเว็บขึ้นมา....ถึงวันนี้ Etsy โตขึ้นเหมือนต้นไม้ที่บำรุงด้วยสารกัมมันตภาพรังสี มันโตฮวบ โตฮาบ ภายในระยะเวลาอันสั้น



จากคนทำงานสิบกว่าคน ตอนนี้เพิ่มเป็นเจ็ดสิบห้าคน รวมกันอยู่ในพิ้นที่กว้างๆ ทำงานไป เล่นไป....เดี๋ยวนี้สถานที่ทำงานรุ่นใหม่ๆ มักจะออกแบบสถานที่ทำงานให้เป็นสนามเด็กเล่น ทำไป เล่นไป มีแล๊บให้ทดลองเย็บนู้น ยัดนี้ ทำอะไรก็ได้เท่าที่สมองอยากทำ....ส่วนมากจะเจออยู่ในกลุ่มพวกนักสร้างสรรค์ต่างๆ ถ้าพวกยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิ้ล ก็มีให้ทุกอย่างที่จะอำนวยความสะดวกพนักงาน ซักผ้า รีดผ้าให้ เลี้ยงลูกให้ ทำกับข้าวให้กินฟรีสามมื้อ มีโรงหนังให้ดู มีสนาม golf ให้เล่น....ทำทุกอย่างที่ช่วยให้พนักมีพื้นที่สมองให้กับงานได้มากที่สุด เสริมสร้างบรรยากาศ ตกแต่งภายในที่ทำงาน ในแบบที่ช่วยกระตุ้นต่อมสร้างสรรค์.....ไม่ใช่วันๆ ให้มันเห็นแต่ฝากั้นโต๊ะ สีเทาๆเน่าๆ กับไฟเพดานจ้าๆขาวๆ บรรยากาศที่ทำงาน มีส่วนอย่างมากในการสร้างสรรค์งาน แต่ทำไมส่วนใหญ่เจ้าของตัวเบ้งๆเค้าไม่ค่อยนึกถึงกัน

Sunday, July 18, 2010

แก้วกินได้....เมื่อโลกขับเคลื่อนด้วยหัวคิดหนุกๆ

เข้าไปนั่งหาเรื่องราวเกี่ยวกับการดำรงค์ชีวิตแบบบ้านๆพื้นๆ ปลูกผัก หาหญ้าเลี้ยงควาย เลี้ยงไก่ ขุนหมูกินเอง ( sustainable living) เดินไปเรื่อยจนไปเจอเข้ากับ the way we see the world กลุ่มดีไซด์เนอร์ ที่มักจะเฉาะไอเดียออกมากรีดกรายให้ตาสว่างกันอยู่เนืองๆ แล้วก็เจอเอากับผลงานแก้วกินได้ของเค้า เห็นแล้วถูกใจ....จะใช้ดี ใช้ได้แค่ไหนยังไม่ได้คิดต่อ ขอแค่ เห็นไไอเดียที่เป็นรูปเป็นร่าง จับต้องได้ออกมาแล้วคลิก.....ก็ปลื้มได้แล้ว

ภาพจาก Yanko Design


เป็นแก้วที่เค้าออกแบบไปร่วมงาน Jell-O Mold ครั้งท่ี2 ในบรู๊คลิน เป็นงานที่ท้าทายให้เหล่าบรรดานักดีไซนด์ เชฟ นักทดลองต่างๆ หาเรื่องเล่นกับผงเจลาติน คือเอาเจลาตินไปทำอะไรก็ได้ที่มันได้เรื่องได้ราวมากกว่าการเอาใส่ปาก กลุ่มนักออกแบบจาก the way we see the world ชนะในครั้งนี้ด้วยการออกแบบแก้วใส่น้ำจากผงวุ้นนี้เอง กินเสร็จแล้วหมั่นใส้แฟน เผลอกัดขอบแก้วขาด ปากคนกัดก็ยังสวยเป็นรูปเป็นร่าง แต่แก้วนั้นฉีดขาดเพราะแรงหมั่นไส้ไปเรียบร้อย




เราเรียกไอเดียอย่างนี้ว่าไอเดียดิบ ไอเดียสด มันยังสดที่ยังต้องคิดต่อ....แต่ก็ไอเดียสดๆอย่างนี้แหล่ะที่ช่วยสร้างโลก เพราะฉะนั้นไอเดียสดคือสิ่งจำเป็นของการพัฒนา....ส่วนไอเดีย....สอย....ที่ไปสอยเค้ามา....เราต้องแผ่เมตตาให้

Tuesday, July 13, 2010

Sidewalk Catwalk Exhibition 2010


มีเหตุให้ต้องฝ่าฝนออกไปหอบผ้า หอบผ่อน จากละแวก Garment District (เรียกเป็นภาษาบ้านเราก็ย่านพาหุรัด สำเพ็ง นั้นเอง) เป็นย่านขายผ้า ขายอุปกรณ์การทำเสื้อผ้า ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับแฟชั่น นักเรียนแฟชั่นจะคุ้นเคยกับย่านนี้ดี หนึ่งในตึกของ Parsons ก็อยู่ย่านนี้ แต่เราไม่เคยมาเรียนตึกนี้ ส่วนใหญ่จะเรียนที่ตึกบนถนนห้าแถวบ้าน ตึกรามแต่ละหลังแถวนั้น จะเป็นแหล่งผลิต แหล่งสมอง ของแบรนด์ๆทั้งหลาย ร้านขายผ้าก็จะอยู่กันไปทั้งแถบ บางร้านต้องขึ้นลิฟกันไป สามสี่ชั้นถึงจะเจอร้าน เรียกได้ว่าถ้าไม่ใช่คนในวงผ้าผ้า จะไม่รู้เลยว่าตรงมุมไหนซอกไหน มีร้านอะไรอยู่

ยังจำได้ครั้งแรกที่อาจารย์สั่งให็ทำ Mood Board แนะนำให้ไปเดินดูผ้าที่ร้าน Mood Fabric บอกที่อยู่มาให้เสร็จสรรพ ถึงเวลาเราไปถึงกับงง เพราะมันอยู่ในตึกเก่าๆ ต้องรอลิฟขึ้นไป ในตัวลิฟจะมีพนักงานแต่งตัวเหมือน Tom Hanks ช่วงที่เป็นพนักงานเก็บตั๋วรถไฟ The Polar Express เป็นคนเลื่อนปิดประตูลิฟ ซึ่งเป็นประตูเหล็กซี่ๆเหมือนประตูร้านขายของชำเก่าๆบ้านเรา แล้วก็กดชั้นให้ ถึงเวลาประตูลิฟเปิดออก ก็เป็นประตูร้านพอดี.....เดินเข้าไป....แม่เจ้าโว้ยยย....มันมีแต่ผ้า กับผ้า วางเป็นชั้นๆกันขึ้นไปยันเพดาน แบ่งเป็นล๊อกๆ เหมือนการจัดชั้นในซูปเปอร์มาร์เก็ต แบ่งเป็นประเภทของผ้ากันไป เรากลายเป็นเด็กออทิสติคไปห้านาที สมองแจ่มแจ้งอยู่อย่างเดียวคือ กรูจะซื้อยังไงให้หมดหล่ะเนี้ย......มันน่าซื้อไปหมด

ร้าน Mood เป็นร้านคุ้นเคยของเหล่าคนทำเสื้อผ้า ถ้าได้ดูรายการ Project Runway ที่เห็นเค้าไปเลือกซื้อผ้ากัน ส่วนใหญ่จะเป็นที่ร้านนี้ เราเองจะขึ้นไปดูผ้า หาไอเดียจากลายผ้า อยู่บ่อยๆ แต่ถ้าจะซื้อ จะลงมาหาเอาจากร้านเล็กๆข้างล่าง เพราะถ้าโชคดีจะได้ราคาถูกกว่าเยอะ


เดินซื้อของเสร็จ ก็หันหลังกลับบ้านเลย วันนี้ไม่มีการอ้อยอิ่งแทะเล็มหนุ่มขายผ้าหวังผ้าราคาถูกอย่างเคยๆ เพราะบรรยากาศไม่ให้ ฝนลงปรอยๆ ซับเวย์มีปัญหา ขี้เกียจรอนาน เลยตั้งใจเดินกลับบ้าน จากถนน 39 (ย่านไทม์สแควร์) กลับอีสวิลเลจถนน 8 วันนี้เลยใส่รองเท้าผ้าใบเพื่อการเดินอย่างเต็มที่ ไม่มีการทำสวยแต่เจ็บใดๆทั้งสิ้น


ช่วงข้ามถนนจาก 7 แอเวนู มาถนนบรอด์เวย์ เห็นกลุ่มชายฉกรรณ์บึกบึนแข็งขัน กำลังเข็นหุ่นโชว์ชุดข้างถนนอยู่ เลยนึกขึ้นได้ว่ามีนิทรรศการณ์โชว์หุ่นของเหล่าดีไซนด์เนอร์อยู่บนถนนบอร์ดเวย์ ชื่องานคือ Sidewalk Catwalk เป็นนิทรรศการณ์ที่จัดโดยกลุ่มผู้ข้องเกี่ยว ผู้พัฒนา ข้องเกี่ยวกับวงการแฟชั้น และย่านพาหุรัดนิวยอร์คแห่งนี้ จัดเพื่อสร้างแรงหึกเหิมให้ย่าน Garment District รวมถึง Fashion District ได้มีการเคลื่อนไหวกันหน่อย หลังจากซึมๆเหมือนโดนยาเบื่อในช่วงเศรษฐกิจเละเป็นขี้อยู่อย่างนี้
สาวตัวลายตัวนี้เป็นหุ่นของ Diane Von Furstenberg

หุ่นพวกนี้เป็นหุ่นที่ตกแต่งโดยดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ต่างๆ โดยจะผลัดเวียนกันไปเอามาโชว์ เราไปถึงช่วงกำลังจะเปลี่ยนคิวพอดี เลยถ่ายอันที่โชว์อยู่กลับบ้านมาด้วย

ว่าไปแฟชั่นกับนิวยอร์คมันเป็นของคู่กันจริงๆ ในแง่ของเรื่องฉาบฉวย มาเร็วไปเร็ว...แทบจะทุกเรื่อง เป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยการตลาด และการสร้างสรรค์ ที่เกี่ยวกับเทรน กับงานออกแบบ งานแฟชั่น อายุของงานพวกนี้จะสั้น ใครอยากอินเทรนก็ต้องรีบคว้าทันทีที่ออกมา ช้าไปสองสามเดือน ก็จืดทันที เพราะมีของใหม่ที่พร้อมจะออกมาเขี่ยของเก่าทิ้งในทุกๆนาทีเข็มนาฬิกาเดิน



หุ่นของ Elie Tahari

มันถึงมีประโยคเด็กสำหรับนักล่าฝันที่จะมาลงสนามในนิวยอร์ค "If you can make it here, you can make it anywhere." เราเองก็ไม่รู้ว่าจริง หรือไม่จริง...เพียงรู้แต่ว่า...จะเข้าไปเต้นอยู่ในวงการแฟชั่น หรือการออกแบบ เป็นผู้นำเทรนใหม่ที่นี่ คุณต้องสวมเสื้อเกราะยี่ห้อ B-itchy แทนชุดชั้นใน....จะได้ไม่สะทกสะท้าน กับพลัง B-itchy ที่มักจะโถมเข้าใส่ จากทุกๆด้าน แล้ววันหนึ่งผิวหนังคุณจะค่อยๆหนาขึ้นเป็นภูมิต้านเองโดยอัตโนมัต

หุ่นของ Rachel Roy


ตำแหน่งแฟชั่นดีไซน์เนอร์ในนิวยอร์ค มีมากพอๆกับแขกขายคะบาบ ขายฮอตดอกริมถนน แต่ใครจะเป็นหัว เป็นหางได้มากแค่ไหนเป็นเรื่องที่น่าชม น่ามอง น่าฟังทั้งสิ้น

ตัวนี้ของป้าพังค์ Betsey Johnson


ดูเหมือนจะเป็นอาชีพทำเงิน แต่ในความเป็นจริงอาชีพนี้ในนิวยอร์ค ทำเงินได้น้อยกว่ากราฟิคดีไซน์เนอร์ แต่ต้องลงทุนสร้างเปลือกมาหุ้มตัวเองมากกว่าอาชีพอื่น ด้วยความที่คู่แข่งขันมันเยอะเกิน....เพราะถ้าไม่เด้ง มันก็ไม่โด่ง

รอเปลี่ยนตัวใหม่ ของดีไซน์เนอร์คนใหม่

Saturday, July 10, 2010

พบสาวน่องลาย


ร้อนแสนร้อน ออกไปเดินหาไอติมกินหน้าบ้าน จิตใจเบิกบาน แถมด้วยตาบานขึ้นอีกสองเท่า เพราะสาวๆกระโปรงบาน เต็มบ้านเต็มเมือง หน้าร้อนที่นี่ไม่มีเบื่อ แค่ออกมานั่งมองสาวๆแต่งตัวกันก็เพลินสุดๆ เพราะเหล่าคุณๆจะแต่งกันแบบตัวใครตัวมัน ไม่มีซ้ำ.....มองหาประเภทแต่งเหมือนกันเป็นพรื้ด เหมือนออกมาจากกระป๋องเดียวกัน โรงงงานเดียวกัน แถวนี้หายาก