Sunday, April 12, 2009

"ฟ้าสีคราม เมฆปุยขาวมีสองปุย"

"สวยทั้งสอง ปุย อยู่ที่เขาที่เราคุย ฟ้าที่แสนงามแขวนเมฆขาวเป็นร้อย ปุย



วันนี้เป็นวันที่ฟ้ามีร้อยปุย ตื่นเช้าขึ้นมาวันนี้ด้วยอาการแฮงค์โอเวอร์ เพราะเมื่อคืนนั่งดูหนังกระดกไวน์ เคี้ยวชี้ส แกล้มจิ้มจุ่มกันอยู่ในบ้าน
กว่าจะเข้านอนก็ล่อเข้าไปเกือบตีสาม เด็กโข่งหันมาอวยพรวันเกิดเพราะย่างเข้าวันใหม่พอดี วันเกิดปีนี้เลยตื่นขึ้นมาแบบมึนๆ หันออกไปดูแแดดข้างนอก โอ้....แดดจ้ามาก แฮงค์โอเวอร์แบบนี้สู้แดดไม่ด้ายยยย เมื่อวานฝนตกพรำๆทั้งวัน วันนี้แดดจ้าแบบฆ่ากันให้ตาย สงสัยเทวดาเมาเมฆเหมือนกัน

เช้ามาเด็กโข่งมีของขวัญมาให้อีกหนึ่งถุงใหญ่ แอบหลบออกไปซื้อเมื่อวาน อาศัยตอนที่เราออกไปตลาดผ้าประมาณสามชั่วโมง กลับมาเห็นแต่ถุงไวน์วางอยู่ ก็นึกว่าแค่ออกไปซื้อไวน์ ถึงแม้เราจะสัญญากันไว้แค่ไหนก็ตามว่าจะไม่มีของขวัญอะไรกันแล้ว เด็กโข่งก็จะแหกสัญญากันอยู่เป็นประจำ




ของขวัญจากเด็กโข่งปีนี้เราเห็นแล้วก็ยิ้มแก้มแตกอีกเหมือนเคย มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากถุงจ่ายตลาดกันอีกแล้ว เที่ยวนี้เด็กโข่งกลับบ้านมาพร้อมกับถุงจ่ายตลาดลวดลายจับจิตจับใจเราจาก Trader Joe's ถุงนี้เป็นถุงพลาสติก ลวดลายต่างกันสองด้าน เหมาะมากสำหรับคล้องแขนไปซื้อ หมู เนื้อ กุ้ง หมึก ไม่ต้องกลัวน้ำรั่วใส่ถุงผ้า แต่พอเห็นลายถุงแล้วโรคเพิ้งชักกำเริบ ไม่อยากใช้อีกแล้วเสียดายเดี๋ยวเก่า.....อย่างที่บอกพวกถุงของร้านพวกนี้เค้าทำกันพักหนึ่ง จากนั้นก็จะไปทำลายใหม่ ลายเก่าก็จะไม่มีแล้ว อย่างถุงผ้า Trader Joe's รุ่นเก่าที่มีเฉพาะโลโก้ร้าน ก็ไม่มีขายแล้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่เราอยากได้อีกอันหนึ่ง



อีกถุงที่เด็กโข่งใจดี เด็ดมาให้อีกหนึ่งถุง เป็นถุงผ้าคอตต้อนสีแดง ลายเป้งๆอีกหนึ่งถุง ถุงที่เป็นผ้าก็จะใส่แค่พวกผักผลไม้ของแห้งที่ไม่เปียก ปัญหาก็คือ...เหมือนถุงผ้าอีกหลายๆอันที่มีอยู่....จะทำใจเอาไปใช้ใส่ของได้เมื่อไหร่ ตอนซื้อด้วยความอยากได้ก็จะตีปีกสัญญาว่าจะเอาไปใช้แน่นอน แต่พอถึงบ้านก็เก็บไว้อย่างหนาแน่น แล้วก็หันมาคว้าเอาถุงผ้าเน่าๆใบเป้งของ Macy's ใบประจำการจ่ายตลาด คล้องใหล่ออกไปทุกที หลายๆถุงจึงยังเอี่ยมอ่อง รอวันทำใจได้ที่จะเอาไปใช้อยู่



นอกจากถุงผ้าจากร้านต่างๆที่เป็นของโปรดเราแล้ว หนังสือคืออีกอย่างที่ปลื้มทุกครั้งที่ได้ สุดยอดของการอยู่เมืองนี้อีกอย่างคือร้านหนังสือ ร้านโปรดของเราในนิวยอร์คคือ strand กับอีกร้่านอยู่บนถนนหลังบ้านก็คือ St. Marks Book shop เป็นร้านหนังสือเล็กๆสไตล์อินดี้ เน้นหนังสืออาร์ตส่วนใหญ่ ที่เราชอบคือร้านหนังสือที่นี่เค้ามีพลังการขายที่มากพอ ทำให้เค้าไม่ต้องเอาไม้ปัดขนไก่มาไล่ เวลาที่เราไปเปิดดูหนังสือเค้า แล้วก็ไม่สาดสิงสาราสัตว์ใส่ในยามที่เราไม่ได้ซื้อหนังสือ ร้านหนังสือที่นี่เป็นเหมือนห้องสมุดเล็กๆได้เหมือนกัน ใครใคร่อ่านก็อ่าน นอนอ่านนั่งอ่านกันแค่ไหนก็ไม่ว่า ถึงเวลาลุกลืมเอาหนังสือไปเก็บให้เป็นที่ เค้าก็จะมาตามเก็บให้เอง




เด็กโข่งรู้ดีว่าเราชอบอะไร วันเกิดเราถึงได้หนังสือมาอีกหนึ่งเล่มอย่างไม่ต้องสงสัย เล่มนี้เป็นเล่มที่ไม่ได้คิดว่าได้มา แต่จำได้ว่าวันหนึ่งนั่งดูรายการป้ามาร์ธาอยู่ ป้าเค้าออกมาโปรโมทหนังสือเล่มใหม่ของเค้า ซึ่งเป็นหนังสืองานฝีมือ เราโพล่งออกมาว่าต้องออกไปเปิดดูซะหน่อยแล้ว เพราะเราชอบทีมการทำงานของป้าเค้า เราว่าป้าเค้ามีพลพรรคคนทำงานที่เก่งและเทสดี ทำให้สินค้าและอีกหลายๆอย่างภายใต้ชื่อ Martha Stewart มีภาพลักษณ์ที่สวยน่าดู....เรามีหนังสือของป้าเค้าหลายเล่มมาก ใช่ว่าหนังสือของป้าเค้าจะสุดยอดจากทั้งหมดทั้งปวง มีหนังสืออีกหลายเล่มที่มีเนื้อหาดีๆ แต่เราไม่ซื้อเพราะหนังสือไม่สวย อ่านยาก ภาพน้อย ชวนหลับ...เพราะแรงบันดาลใจในการทำอะไรก็แล้วแต่ของเราเกิดจากสิ่งที่ตาเราเห็นเป็นอันดับแรก ส่วนจะทำให้มันออกมาได้อย่างไร เราจะหาทางทำมันออกมาจนได้ด้วยตัวเราเอง ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยได้เสียตังค์กับหนังที่เต็มไปด้วยคำอธิบาย เนื้อหาแน่นๆ เท่าไหร่นัก ยกเว้นนิยาย



หนังสือของป้าเค้า การนำเสนอกำลังพอดีสำหรับเรา เนื้อหาไม่มากมาย เอาแค่ที่สำคัญๆ ภาพสวยๆ เชื้อเชิญให้ใช้เวลาอยู่กับหนังสือได้นานๆ เล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ภาพสวย ภาพสวยก่อให้เราเกิดแรงอยาก อยากทำให้ออกมาหมือนในภาพ การจัดหน้าหนังสือดูสบาย ชวนให้นั่งอ่าน นั่งดู ได้นานๆไม่ปวดกะบาล ไม่รู้สึกถูกยัดเยียด

วันเกิดปีนี้จึงสุขใจแบบง่ายๆอีกหนึ่งปีด้วยของขวัญราคาไม่มากไม่มาย ไม่มีราคาเท่าหลุยดิงด็อง ไม่ใช่ชาแนล ชาน้ำ แต่เป็นของที่ได้มาจากคนซื้อที่เค้ารู้ว่าเราคือใคร ความสุขของเราคืออะไร แค่นี้ก็แพงไม่มีอะไรจะเทียบแล้ว แต่ปีนี้ที่ขาดอยู่อย่างที่ไม่ได้คือขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ของแม่ กับใข่เจียวหมูสับของอา....ว่าแล้วก็ต้องโทรเช็คซะหน่อยว่าทำอะไรกินกันในวันสงกราณต์

"ปุย ทุก ปุย ปุย จะสดสวยเพราะเราดู"

2 comments:

Anonymous said...

หอบใจมาอวยพรย้อนหลังให้ปุยสองปุยค่ะ
เห็นของขวัญที่ได้แล้ว ยิ้มแก้มปริ น้ำลายยืด 555...ขอให้มีความสุข มองเมฆขาวๆด้วยหัวใจเบิกบานทุกๆวันนะคะ :)

kay said...

ไปอวยพรย้อนหลังหน้านู้นแล้วล่ะ ^^"

ส่วนหน้านี้จะบอกว่า ทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้ "เมฆปุยขาวสองปุย" ก็จะนึกถึง "ปุย" ทุกครั้ง