Wednesday, August 25, 2010

ไปแย่งเด็กดูหนังกลางแปลง



กิจกรรมฟรีๆหน้าร้อนเริ่มเจือจางลงทุกวัน....เมื่อลมเย็น ฝนหนาว โชยมาหุยๆ....นิวยอร์คเกอร์ส่วนใหญ่จะออกไปใช้เวลาหน้าร้อนกันจนหยดสุดท้าย แล้วค่อยกลับไปจำศีลหลบหนาวในถ่ำเหมือนเดิมอีกประมาณแปดเดือน

เรามันมนุษย์เมืองร้อน ไม่ค่อยเป็นมิตรกับแดดหน้าร้อนเหมือนมนุษย์เมืองหนาวเค้า เราเลยมักจะออกมาเชยชมพระอาทิตย์ช่วงเวลาเย็นกันซะส่วนใหญ่ กลางวันวันไหนแดดเปรี้ยง เราเลือกที่จะเกลือกกลิ้งอยู่บ้าน


ช่วงเวลาหน้าร้อน...บรรยากาศช่วงเย็นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การดูดอมยิ้มเดินเล่นชมเมืองมากที่สุด พระอาทิตย์ก็เป็นใจ กว่าจะตกให้ฟ้่ามืดก็ประมาณเกือบสามทุ่ม

ทุกๆหน้าร้อนกิจกรรมฟรีๆในนิวยอร์คมีเยอะมาก จัดโดยกลุ่มออกาไนซ์เชอร์ต่างๆที่ขึ้นตรงโดยเมืองนิวยอร์ค โดยเอาเงินภาษีมาใช้จัดงาน ถือว่าเป็นการคืนความรื่นรมณ์กลับให้ผู้เสียภาษี ให้เหมาะกับความสาหัสของภาษีที่นิวยอร์คเกอร์ต้องจ่าย



หนึ่งในกิจกรรมนั้นคือกิจกรรมในกลุ่ม River to River จัดโดยกลุ่มที่รับผิดชอบกิจกรรมทั้งรอบแม่น้ำฮัตสัน และในแม่น้ำฮัตสัน....เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ชอบใช้ชีวิตในน้ำ หรือแค่เลาะริมตลิ่งหาปลาหาปลิงกิน...ถ้าชอบ

เค้าจะมีคลาสสอนให้ทุกอย่าง สอนพายคายัค เล่นเรือใบ สอนตีลังกา กลับหัวกลับหาง ห้อยโหน โจนอากาศ....มีหมด...สาระพัดในแบตเตอร์รี่พาร์ค พาร์คเล็กๆแต่ยาวเลาะริมแม่น้ำฮัตสัน ตั้งแต่ดาวน์ทาวน์ยันมิดทาวน์....ทุกๆวันเสาร์เมื่อตกเย็น แดดร่ม ลมเอื่อย ป๊อบคอร์นเต็มตู้แล้ว ก็พร้อมฉายหนังกลางแปลง



กิจกรรมฉายหนังกลางแปลง เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กเด็กแดง เน้นไปสำหรับเด็กซะส่วนใหญ่ หนังที่เอามาฉายก็จะเป็นหนังที่มีเรื่องราวน่ารักๆสำหรับเด็กๆ อย่างวันนี้ฉายเรื่อง Annie เป็นเรื่องของเด็ก อาศัยอยู่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าผู้แก่นแก้วมีแววเป็นผู้สร้างเมือง....เด็กดูไปร้องเพลงตามไปด้วย ผู้ใหญ่ไม่เลี้ยงเด็กอย่างเรา ก็ไปอาศัยนั่งดูเด็ก แอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ลูกเค้า ให้หายคัน แล้วก็ไปหาป๊​อบคอร์นฟรีกิน....มีหนังให้ดูฟรีแล้วยังไม่หนำ เค้าเลยต้องแจกป๊อบคอร์นฟรี ของเล่นฟรีด้วย

แต่ละบ้านก็จะหอบผ้าหอบผ่อน หมอนอิง หมอนข้าง ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา กับข้าวกับปลา กันมาพะรุงพะรัง แล้วก็มาปูผ้าตั้งวงเอกเขนก แคะหู หาเหา ให้กัน....รอเวลาหนังฉาย มันเป็นบรรยากาศที่ไม่มีสารพิษเจือปนทั้งหมดทั้งสิ้น แดดอ่อนๆ ลมเย็นเอื่อยๆ เพลงเบาๆ กลุ่มที่สนุกที่สุดคือพวกมนุษย์ตัวเล็กทั้งหลาย....วิ่งเล่น หัวทิ่ม หัวตำ กันสุดสวิง



เราว่าแค่จอหนังผืนเล็กๆ กับแดดอ่อนๆ ลมเย็นริมแม่น้ำ สนามหญ้าปลอมเขียวขจี ของเล่นฟรี ขนมฟรี นิดๆหน่อยๆแค่นี้ มันจะสร้างความทรงจำดีๆให้เด็กๆเหล่านี้อย่างแน่นอนเมื่อเค้าโตขึ้น.....เพราะสำหรับเด็กแล้วพื้นที่เล็กๆในสายตาผู้ใหญ่ มันคืิอพื้นที่ใหญ่ๆในสายตาเด็กเสมอ และจะเป็นพื้นที่ที่มีค่ามากของเค้า...เรารู้...เราเห็น...เพราะเราเป็นมาก่อน

เราเองยังจำได้ว่าเมื่อสมัยวัยผูกผมเปีย ร้านเจ๊ขายของชำตรงหัวมุมถนนหน้าแขวง เป็นร้านที่ใหญ่และเริ้ดที่สุด และเป็นร้านเดียว สำหรับการช๊อบปิ้งในชีวิตของเด็กที่หัวยังไม่พ้นโต๊ะขายขนม โตขึ้นมาเราก็ยังเลือกที่จะแวะเวียนไปหาขนมกินที่ร้านเจ๊เหมือนเดิม ถึงแม้มันจะกลายเป็นร้านเล็กๆ เท่าฝายันฝาไปแล้วเมื่อเราโตขึ้น...ขนมก็เป็นขนมง๊องแง๊งไปแล้วในสายตาเรา แต่เสียงทักทายของเจ๊ ของแปะ ลูกๆเจ๊ที่เห็นเรามาแต่เด็ก ทุกครั้งที่เราแวะไปมันยังเหมือนเดิม...


ว่าไปอยากให้มีกิจกรรมอย่างนี้ให้เด็กเมืองบางกอกบ้างจัง....รู้สึกว่าเด็กเมืองบางกอกทุกวันนี้ ห่างเหินจากวิถีชีวิตง่ายๆเข้าไปทุกที แต่ก็นะ....ลองฉายหนังฟรีอย่างนี้ที่สวนลุมซิ เด็กๆคงเพียบเหมือนกัน....เด็กแว้น เด็กสก๊อย ผู้น่ารัก พวกเธอก็คงสนุกสนานร่าเริงหัวทิ่ม หัวตำ ไม่แพ้เด็กริมแม่น้ำฮัตสัน...เพราะของฟรีๆมีที....มาม๊ะ...เรามา ตีกัน ตีกัน

2 comments:

irobott said...

น่ารัก :)
แต่ก็อย่างที่พี่ปุยว่าค่ะ
ถ้าเป็นบ้านเราจัด
คงตีกันให้ม่วนอกม่วนใจ

เฮ้อออออ

อยากเห็นพระอาทิตย์ตกตอนสามทุ่มบ้างจัง

พิมพร said...

ไม่เคยไปดูหนังกลางแปลงที่นู้นเลย ว่าจะ ว่าจะ จนอดจนได้